ชายอิหร่าน แรงบันดาลใจภาพยนตร์ดัง The Terminal เสียชีวิตแล้วที่สนามบินปารีส

matichon 14/11/2022 10:53:18

ชายอิหร่าน แรงบันดาลใจภาพยนตร์ดัง The Terminal เสียชีวิตแล้วที่สนามบินปารีส

นายเมห์ราน คาริมี นาสเซรี ชายชาวอิหร่าน วัย 77 ปี ที่อาศัยอยู่ในสนามบินชาร์ลเดอโกล ในกรุงปารีส ของฝรั่งเศส จนเป็นแรงบันดาลใจและนำไปสู่การสร้างภาพยนตร์เรื่อง The Terminal ของสตีเวน สปิลเบริ์ก ผู้กำกับฮอลีวูดชื่อดัง เสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในสนามบินที่เขาเรียกมันว่าเป็นบ้านของตนเอง

ตามการระบุของเจ้าหน้าที่และแพทย์ผู้ให้การรักษาที่สนามบินแจ้งว่า นายนาสเซรีเสียชีวิตจากอาการหัวใจวายในอาคารผู้โดยสาร 2F ของสนามบินชาร์ลเดอโกลเมื่อเวลาราวเที่ยงของวันเสาร์ หลังจากที่แพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตของเขาไว้ได้

นายนาสแซรีอาศัยอยุ่ในอาคารผู้โดยสาร 1 ของสนามบินชาร์ลเดอโกล ตั้งแต่ปี 1988-2006 ครั้งแรกเป็นเพราะเขาประสบกับปัญหาในแง่ขอกฎหมายเกี่ยวกับเอกสารแสดงถิ่นที่อยู่ และต่อมามันกลายเป็นทางเลือกของเขาเองที่จะอาศัยอยู่ที่นั่น

Advertisement

ปีแล้วปีเล่า เขานอนอยู่บนม้านั่งพลาสติกสีแดง ผูกมิตรกับคนงานในสนามบิน อาบน้ำในสถานบริการของพนักงาน เขียนไดอารี่ อ่านนิตยสาร และเฝ้ามองสำรวจผู้โดยสารที่เดินทางผ่านไปมา พนักงานในสนามบินตั้งชื่อเขาว่า ลอร์ดอัลเฟรด และเขาก็กลายเป็นคนดังในหมู่ผู้โดยสารสนามบิน

นาสเซรีเกิดเมื่อปี 1945 ที่เมือง Soleiman ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอิหร่านที่ในขณะนั้นอยู่ภายใต้ขอบเขตอำนาจศาลอังกฤษ โดยมีพ่อเป็นชาวอิหร่านและแม่เป็นชาวอังกฤษ เขาเดินทางออกจากอิหร่านไปศึกษาต่อที่อังกฤษในปี 1974 เขาเล่าว่าเมื่อกลับประเทศ เขาถูกจำคำเพราะประท้วงต่อต้านซาห์ และถูกขับออกนอกประเทศโดยไม่มีหนังสือเดินทาง

นาสเซรีได้ยื่นขอสถานะผู้ลี้ภัยทางการเมืองในหลายประเทศในยุโรป สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ในเบลเยียมได้มอบหนังสือรับรองสถานะผู้ลี้ภัยให้กับเขา แต่เขาบอกว่า กระเป๋าเอกสารของเขาที่มีใบรับรองดังกล่าวถูกขโมยไปที่สถานีรถไฟในกรุงปารีส

ในเวลาต่อมาเขาถูกตำรวจฝรั่งเศสจับกุม แต่ก็ไม่สามารถเนรเทศเขาไปยังที่ใดได้ เพราะเขาไม่มีเอกสารรับรองตัวตนอย่างเป็นทางการ ทำให้เขากลายเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรที่สนามบินชาร์ลเดอโกล ในเดือนสิงหาคม 1988 เป็นต้นมา

Advertisement

ด้วยความวุ่นวายของระบบราชการและกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองของยุโรปที่เข้มงวดมากขึ้น ทำให้นาสเซรีใช้ชีวิตอยู่ในสถานที่ที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ตามกฎหมายมานานหลายปี แม้ว่าที่สุดแล้วเขาจะได้รับเอกสารสำหรับผูลี้ภัยในที่สุด แต่เขากลับรู้สึกประหลาดใจและรู้สึกถึงความไม่มั่นคง หากจะต้องเดินทางออกจากสนามบิน โดยมีรายงานว่าเขาปฎิเสธที่จะลงนามในเอกสารเหล่านั้น และลงเอยด้วยการใช้ชีวิตอยู่ในสนามบินอีกหลายปี กระทั่งต้องเข้ารับากรรักษาตัวในโรงพยาบาลในปี 2006 จากนั้นก็ถูกส่งไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงในกรุงปารีส

ผู้ที่เป็นเพื่อนกับนาสเซรีในสนามบินกล่าวว่า หลายปีของการใช้ชีวิตในสนามบินที่ปราศจากหน้าต่างนั้นส่งผลต่อสภาพจิตใจของนาสเซรี ขณะที่แพทย์ประจำสนามบินก็กังวลเกี่ยวกับสภาพจิตใจและร่างกายของเขาเช่นกัน และอธิบายว่า เขาเป็นเหมือนฟอสซิสของสนามบิน ขณะที่เพื่อนของเขาซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ขายตั๋วบอกว่า นาสเซรีเป็นเหมือนกับนักโทษที่ไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ข้างนอกได้อีกต่อไป

ในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนที่นาสเซรีจะเสียชีวิต เขากลับเข้ามาอาศัยอยู่ในสนามบินชาร์ลเดอโกลอีกครั้ง ก่อนที่จะจากไปในสถานที่ที่เขาใช้ชีวิตอยู่อย่างยาวนานในที่สุด

เรื่องราวอันน่าเหลือเชื่อของนาสเซรีไม่เพียงแต่จะเป็นแรงบันดาลใจในการนำไปสร้างภาพยนตร์เรื่อง The Terminal ในปี 2004 ที่นำแสดงโดยทอม แฮงส์ แต่ยังถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ในฝรั่งเศสเรื่อง Lost in Transit และโอเปร่าเรื่อง Flight

เชื่อมต่อ

นอกจากนี้

ดูอีกครั้งสิ