นายปราสาท กัลยาณรามัน รองประธานฝ่ายบริการโครงสร้างพื้นฐานของ อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส หรือ เอดับบลิวเอส เปิดเผยว่า บริษัทได้วางแผนที่จะลงทุนมากกว่า 1.9 แสนล้านบาท ในประเทศไทยในระยะเวลา 15 ปี โดยล่าสุดได้ประกาศลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ระดับภูมิภาคในประเทศไทย ในชื่อ เอดับบลิวเอส เอเชีย แปซิฟิก (แบงค็อก) ซึ่งจะประกอบ อเวลละบิลลิตี้ โซน หรือ ศูนย์ข้อมูล (ดาต้า) สามแห่ง ซึ่งเพิ่มเติมจากที่มีอยู่แล้ว 87 แห่งใน 27 ภูมิภาคทั่วโลก ซึ่ง เอดับบลิวเอส ระดับภูมิภาคที่จะเกิดขึ้นในไทย จะช่วยให้นักพัฒนา สตาร์ทอัพ และองค์กรต่างๆ รวมถึงภาครัฐ การศึกษา และองค์กรไม่แสวงผลกําไร สามารถเรียกใช้แอพพลิเคชั่นของตนและให้บริการ ผู้ใช้ปลายทางจากศูนย์ข้อมูล เอดับบลิวเอส ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย และช่วยให้ลูกค้าที่ต้องการเก็บข้อมูล ของตนไว้ในประเทศไทยสามารถทําได้
“เอดับบลิวเอส มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของประเทศไทย ผ่านการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในประเทศและการนำเสนอบริการใหม่ๆ ที่รวดเร็ว เพื่อช่วยให้ลูกค้าในประเทศไทยสามารถใช้ศักยภาพทั้งหมดของคลาวด์ เพื่อเปลี่ยนวิธีการดำเนินงานและนำเสนอบริการต่างๆ ซึ่งการลงทุนของบริษัทครั้งนี้ จะช่วยให้องค์กรสามารถสร้างสรรค์ นวัตกรรมด้วยการใช้ประโยชน์จากบริการที่หลากหลายและเชี่ยวชาญของ เอดับบลิวเอส เช่น แมชชีนเลิร์นนิ่ง การวิเคราะห์ และอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง หรือ ไอโอที ด้วยเครื่องมือใหม่เหล่านี้ ยังช่วยให้ลูกค้าภาครัฐ สามารถมีส่วนร่วมกับพลเมืองได้ดียิ่งขึ้น และองค์กรต่างๆ สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรม รวมถึงสร้างธุรกิจ และแข่งขัน ในระดับโลก”
ทั้งนี้ศูนย์ข้อมูล ของเอดับบลิวเอส จะมีการวางโครงสร้างพื้นฐานในที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่แยกจากกันและแตกต่างกัน โดยมีระยะห่างเพียงพอที่จะลดความเสี่ยง หากเกิดเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อการใช้งานที่ต่อเนื่องของลูกค้า ซึ่งศูนย์ฯ แต่ละแห่ง มีแหล่งพลังงาน การระบายความร้อน และการรักษาความปลอดภัยทางกายภาพที่แยกจากกัน และเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายเวลาแฝงที่ซ้ำซ้อนและต่ำเป็นพิเศษ ลูกค้าสามารถเลือกใช้ได้หลายแห่ง เพื่อให้เกิดความทนทานต่อความเสียหายที่ดียิ่งขึ้น
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า แผนของ เอดับบลิวเอส ในการสร้างศูนย์ข้อมูลหรือดาต้า เซ็นเตอร์ ในประเทศไทย ถือเป็นก้าวสําคัญที่จะนำบริการการประมวลผลบนระบบคลาวด์ขั้นสูงมาสู่องค์กรจำนวนมากขึ้น และช่วยให้เราบรรลุเป้าหมาย Thailand 4.0 ในการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลที่มีมูลค่า รัฐบาลไทยยินดีที่ได้ร่วมมือกับ เอดับบลิวเอส ผู้ให้บริการระบบคลาวด์ชั้นนำของโลก เพื่อนำโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ระดับโลกที่ปลอดภัยและยืดหยุ่นมาสู่ประเทศไทย การลงทุนของ เอดับบลิวเอส จะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ สร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจในระยะยาวอย่างมีนัยสำคัญ และช่วยสร้างแรงงานที่มีทักษะด้านดิจิทัลขั้นสูงอีกด้วย
ด้าน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า การลงทุน ของ เอดับบลิวเอส ในประเทศไทย จะช่วยภาคธุรกิจและหน่วยงานภาครัฐในการให้บริการดิจิทัลที่ดีขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนของประเทศเราในอีกหลายทศวรรษข้างหน้า ทั้งสองฝ่ายจะได้ทํางานร่วมกัน เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของภาครัฐ โดยการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานแบบเดิมให้ทันสมัย เพื่อปรับปรุงการดําเนินงาน และการลงทุนของ เอดับบลิวเอส จะทําให้ประเทศของเราก้าวเข้าใกล้อนาคตดิจิทัลของประเทศไทยมากขึ้นอีกขั้น