วันนี้ “Campus Life” ขอโกอินเตอร์ ไปพูดคุยกับ 4 สาว นักศึกษาแลกเปลี่ยนจาก มหาวิทยาลัยมอสโก สหพันธรัฐรัสเซีย ที่มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต กัน มาดูซิว่า ประเทศไทยในมุมมองของนักศึกษาสาวรัสเซีย จะเป็นอย่างไรกันบ้าง
อานาสตาเซีย โกเรเลนโควา
เริ่มต้นกันด้วย “อานาสตาเซีย โกเรเลนโควา” มีชื่อไทยที่เพื่อนๆตั้งให้ว่า “พราว” ปี 3 คณะรัฐศาสตร์ สถาบันเอเชียและแอฟริกาศึกษา มหาวิทยาลัยมอสโก บอกว่า มาเรียนวิชาภาษาไทย ที่มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ในโครงการแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรม ทำให้ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้และเข้าใจวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน เมืองไทยเป็นเมืองที่น่าอยู่ มีเสน่ห์ ชอบเดินทางไปท่องเที่ยวจังหวัดต่างๆในเมืองไทยมากๆ ซึ่งในสมัยยังเด็กเคยติดตามแม่ที่เป็นนักการทูตมาประจำอยู่ประเทศไทยด้วย พอสอบเข้ามหาวิทยาลัยมอสโกได้ในคณะรัฐศาสตร์ จึงตัดสินใจเลือกเรียนภาษาไทย และได้มาที่ประเทศไทยอีกครั้ง ตามข้อตกลงความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย เมื่อมาเรียนช่วงแรกต้องปรับตัวเพราะเมืองไทยอากาศร้อน แต่ก็มีอาหารไทยที่อร่อยมากๆ อาหารไทยที่ชอบเป็นพิเศษ คือ แกงมัสมั่นไก่ ที่หอมกลิ่นเครื่องเทศคล้ายๆกับอาหารรัสเซีย อาหารไทยมีความหลากหลายซึ่งทำให้ได้เรียนรู้วัฒนธรรมอีกรูปแบบหนึ่ง เพื่อนๆคนไทยและอาจารย์ยังสอนให้เข้าใจในศิลปวัฒนธรรม และประเพณีไทย เช่น การไหว้ การทักทาย การพูดขอบคุณ สวัสดี แม้การมาเรียนที่ประเทศไทยครั้งนี้จะเป็นช่วงระยะเวลาเพียง 4 เดือน แต่เป็นประสบการณ์และความทรงจำที่น่าประทับใจมากๆ
เอลีน่า คราฟเชงโก
ต่อด้วย “เอลีน่า คราฟเชงโก” กับชื่อเล่นตามที่เพื่อนๆตั้งให้ว่า “แพรว” บอกว่า ภาษาไทยมีเสน่ห์มาก มีคำศัพท์มากมายที่มีที่มาของคำแตกต่างกัน การผันเสียง เหมือนเสียงของตัวโน๊ตเพลง ทำให้ชอบและศึกษาภาษาไทยมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เรียนที่รัสเซีย เมื่อได้มีโอกาสมาเรียนกับเจ้าของภาษา จึงคิดว่าจะช่วยพัฒนาภาษาไทยได้ดีขึ้น และยังได้รับความรู้และประสบการณ์เพิ่มเติมจากวิชาต่างๆ ได้แก่ การอ่านและการฟัง ตลอดจนการใช้ภาษาไทยในชีวิตประจำวัน เช่น การโฆษณา วิทยาการคอมพิวเตอร์ หรือภาษาในโลกออนไลน์ เป็นต้น นอกจากนี้ การเรียนที่ประเทศไทย ทำให้มีโอกาสได้ศึกษาศิลปะ วัฒนธรรมของไทย เช่น การรำไทย เล่นเครื่องดนตรีไทย แต่งกายชุดไทย เป็นต้น เพื่อนๆในห้องจะมีทั้งนักศึกษาไทย และจากประเทศอื่นๆ เช่น จีน เวียดนาม กัมพูชา ตุรกี ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้จัดกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นให้ใช้ภาษาได้คล่องขึ้นด้วย
วาเลนตินา โลเชวา
ด้าน “วาเลนตินา โลเชวา” ซึ่งมีชื่อเล่นที่ถูกตั้งให้อย่างเก๋ไก๋ว่า “วีวี่” เล่าว่า สนใจวัฒนธรรม ประเพณี และภาษาของประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงตัดสินใจเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษาระหว่างมหาวิทยาลัยมอสโก และมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และลองฝึกปฎิบัติในวิชาต่างๆ เช่น การค้นหาคำต่างๆ และความหมายของภาษาไทยในโลกออนไลน์ มีกิจกรรมที่ทำให้รู้จักเพื่อน รู้จักประเทศไทย รู้จักมหาวิทยาลัยมากขึ้น เมื่อรู้จักเพื่อนมากขึ้น เพื่อนๆก็มักจะชวนทำกิจกรรมสนุกๆ เช่น การเล่นดนตรีไทย และยังชอบที่จะเดินทางไปวัด รวมทั้งแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมไทย เช่น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ได้เห็นสถาปัตยกรรมแบบพุทธ พราหมณ์ ฮินดู ซึ่งเป็นรูปแบบการผสมผสาน และการเติบโตทางวัฒนธรรมที่มีมาอย่างยาวนาน และคนไทยยังคงรักษาสิ่งเหล่านี้ได้อย่างดี คนไทยน่ารัก ยิ้มเก่ง คอยช่วยเหลือกันแม้จะไม่รู้จักกันก็ช่วยเหลือ
ดาเรีย ลาส์ทเซวา
ปิดท้ายกันที่ “ดาเรีย ลาส์ทเซวา” หรือน้อง“ดาว” ของเพื่อนๆ บอกว่า เพิ่งได้มาที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก มีความประทับใจหลายอย่างโดยเฉพาะวัฒนธรรม และประเพณีไทย มหาวิทยาลัยที่รัสเซียต่างจากมหาวิทยาลัยในประเทศไทย เช่นที่รัสเซียไม่มีชุดนักศึกษา และเวลาเรียนก็ต่างกัน ส่วนตัวชอบเรียนวิชาภาษาราชการมากที่สุด เพราะวางแผนจะเป็นนักการทูตในอนาคต อาหารไทยอร่อย เช่น ข้าวผัด และข้าวเหนียวมะม่วง และยังเป็นครั้งแรกที่ได้เรียนรำวง ได้เรียนเป่าขลุ่ย เสียงขลุ่ยมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากเครื่องดนตรีของรัสเซีย และมีขนาดเล็กที่สามารถพกพาไปไหนก็ได้ ทั้งนี้ในฐานะหัวหน้ากลุ่มของ Southeast Asia Club IAAS MSU ที่มีผู้ติดตามกว่า 1,300 คน จะนำประสบการณ์จากการมาเรียนที่มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต และประเทศไทย ไปเขียนเล่าเรื่องให้นักศึกษาคณะอื่นๆในกลุ่มรับทราบต่อไปด้วย
จากมุมมองของ 4 สาวนศ.จากประเทศรัสเซียที่มีต่อประเทศไทย เป็นอีกคำยืนยันจากปากชาวต่างชาติโดยตรงถึงเสน่ห์ของ ภาษา อาหาร วัฒนธรรม ประเพณี ซึ่งเป็น “ซอฟท์พาวเวอร์” ของไทยได้เป็นอย่างดี